Interactive data กำลังเป็น Big point ที่สำคัญสำหรับการทำ Digital Transformation ในระดับที่สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันบนพื้ฐานการใช้ข้อมูล และยังนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยี
.
องค์กรไทยจำนวนมากโดยเฉพาะ SMEs ยังแทบไม่ค่อยเอา Data มาใช้สนับสนุนหรือตัดสินใจในการทำธุรกิจ ข้อมูลแบบ After-the-fact หรือข้อมูลจากการวิจัยตลาด หรือการทำ Social Listening ยังถูกกองไว้ หรือไม่แม้แต่จะสนใจที่จะนำมาใช้
.
การตัดสินใจยังอยู่บนพื้นฐานประสบการณ์ + ความรู้สึก + ความน่าจะเป็น ภาษาบ้านๆ เรียก เดาสุ่ม ถ้าย้อนไปสัก 10-15 ปีที่ผ่านมา มันคงได้ผลระดับดี เพราะตลาดไม่ได้มีตัวแปรทางคณิตศาสตร์ที่จะทำให้สมการ ประสบการณ์ + ความรู้สึก + ความน่าจะเป็น คลาดเคลื่อนสักเท่าไหร่ เพราะทุดคนใช้สมการเดียวกัน ผลลัพธ์จึงเท่าเดิมหรือได้แบบเดิม
.
แต่ 5 ปีที่ผ่านมาไม่ใช่อีกต่อไป ธุรกิจจำนวนหนึ่งเริ่มใช้ Data จริงจัง ดังนั้นมันทำให้สมการการแข่งขันทางธุรกิจเปลี่ยนแปลง ตัวแปรเปลี่ยน ผลลัพธ์ย่อมเปลี่ยน ถ้าเรายังคงใช้สมการแบบเดิม ประสบการณ์ + ความรู้สึก + ความ่นาจะเป็น จะไปสู้เขาได้อย่างไร
.
ช่วงนี้จึงเป็นโค้งอันตรายสำหรับผู้ประกอบการที่เก่ง แต่เปลี่ยนไม่เป็น การยังคงทู่ซี้ทำแบบเดิมๆ มีแต่จะทำให้ความสามารถของธุรกิจยิ่งลดลงอย่างต่อเนื่อง ผลประกอบการ กำไรเริ่มหดตัว จากการสูญเสียความสามารถทางการแข่งขันและส่วนแบ่งทางการตลาด
.
อย่าไปโทษตลาด เพราะตลาดมันเป็นปกติแบบนี้แหละ อย่าไปโทษนโยบายรัฐ เพราะมันก็เป็นแบบนี้มานานเช่นกัน
.
ถ้าคุณยังคงโทษฟ้า โทษฝน โทษคน โทษเทศกาล (คำกล่าวของพี่แป๊บ Com7) มันก็เป็นการยอมรับกลายๆ ว่าคุณไร้น้ำยา ทำธุรกิจเป็นเฉพาะตลาดขาขึ้น และจนปัญญาเมื่อตลาดเปลี่ยนแปลง
.
ถ้าคุณบอกว่าเปลี่ยนจนไม่รู้จะเปลี่ยนอย่างไร แต่มันทำไม่ได้จริงๆ คุณอาจต้องเริ่มคิดว่า คุณไม่ได้เหมาะกับธุรกิจนี้หรือในรูปแบบนี้ จริงๆ
.
ผมเคยเจอผู้ประกอบการจำนวนมากที่ทำได้แย่มากๆ ในธุรกิจหนึ่ง แต่ทำได้ดีในอีกธุรกิจหนึ่ง คุณแค่ต้องหามันให้เจอ และถ้าคุณพูดว่า ก็พูดได้นี่ แสดงว่าคุณไม่รู้จักผู้ประกอบการและนักธุรกิจตัวจริง พวกเขาลงทุน ลงแรง ลงเวลา และอยู่กับมันเกือบทุกวินาทีของการมีชีวิต
.
ส่วนสำคัญที่สุด คือ โลกเปลี่ยนและกำลังเปลี่ยนอีกมาก คุณจำเป็นต้องมี Data มากพอให้ตัดสินใจว่า โลกไปทางไหนแล้วเราควรไปทางไหน ควรไปอยู่จุดไหน ถ้าวันนี้คุณไม่รู้ เท่ากับว่าคุณกำลังเสี่ยงในการทำธุรกิจ ซึ่งผู้ประกอบการหรือนักธุรกิจมืออาชีพ #พวกเขาไม่เคยเสี่ยง
.
ดร.ทอย
